พิโคพลัส ทำให้ปากอมชมพูจริงหรือไม่
พิโคพลัส มีส่วนช่วยทำให้ปากอมชมพูได้จริง แต่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แน่นอน และขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ พิโคพลัส และปากอมชมพู:
พิโคพลัส คืออะไร?
พิโคพลัส เป็นชื่อแบรนด์ของเลเซอร์ PicoSure โดย PicoWay ซึ่งใช้เทคโนโลยี Pico Laser ในการรักษาความงาม เทคโนโลยีนี้แตกต่างจากเลเซอร์แบบเดิมตรงที่ปล่อยพลังงานเป็นพัลส์สั้นและแรง ทำให้เกิดการสลายเม็ดสีเมลานินได้อย่างล้ำลึกโดยไม่ไปทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
ทำให้ปากอมชมพูอย่างไร?
การใช้ Picoplus เลเซอร์ปากชมพูจะทำโดยยิงแสงเลเซอร์ไปที่ริมฝีปาก แสงเลเซอร์จะเข้าไปสลายเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุของสีปากคล้ำ ทำให้ริมฝีปากดูจางลงและอมชมพูขึ้น นอกจากนี้ยังอาจช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มขึ้น
ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
ผลลัพธ์ของการทำ Picoplus เลเซอร์ปากชมพู ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สีปากเดิม ความรุนแรงของความคล้ำ สาเหตุของความคล้ำ และจำนวนครั้งที่ทำ โดยอาจจะต้องทำเลเซอร์หลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร สีปากอาจกลับคล้ำลงได้อีกภายหลังหากได้รับแสงแดดเป็นประจำ หรือสูบบุหรี่ การทาลิปบาล์มที่มีสารกันแดดและดูแลริมฝีปากอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดผลลัพธ์ให้นานขึ้น
ผลข้างเคียง
การทำ พิโคพลัส เลเซอร์ปากชมพู อาจมีผลข้างเคียงเช่น รอยแดงบวมบริเวณริมฝีปาก ซึ่งมักจะหายไปภายใน 1-2 วัน ในบางรายอาจมีตุ่มน้ำใสขึ้น ซึ่งควรปรึกษาแพทย์หากไม่หายไปภายใน 2-3 วัน
สรุป
พิโคพลัส มีส่วนช่วยทำให้ปากอมชมพูได้จริง แต่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนตัดสินใจทำ
ก่อนตัดสินใจทำ ควรสอบถามรายละเอียดและผลข้างเคียงจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
ขณะทำ Picoplus เลเซอร์ปาก ความรู้สึกที่ได้รับอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว มักจะรู้สึกได้ถึงอาการดังต่อไปนี้
- เจ็บหรือแสบเล็กน้อย ขณะที่แพทย์ยิงเลเซอร์ โดยเฉพาะบริเวณที่ริมฝีปากบางหรือบอบบาง อาจจะรู้สึกเจ็บมากกว่าบริเวณอื่น แพทย์อาจทายาชาก่อนทำเลเซอร์เพื่อลดอาการเจ็บ
- ร้อน รู้สึกเหมือนมีอะไรมาเผาบริเวณที่โดนเลเซอร์ โดยปกติอาการร้อนจะหายไปเร็วภายในไม่กี่วินาที
- เสียงดังคล้ายดีดสายกีตาร์ บางคนอาจรู้สึกได้ถึงเสียงดังคล้ายดีดสายกีตาร์ขณะที่แพทย์ยิงเลเซอร์
หลังจากทำเลเซอร์ ริมฝีปากอาจจะบวมแดงช้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ อาการบวมแดงจะค่อยๆยุบลงภายใน 1-2 วัน ในบางรายอาจมีตุ่มน้ำใสขึ้น ซึ่งไม่ต้องกังวล ตุ่มน้ำใสจะยุบลงไปเองภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าหากไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรปรึกษาแพทย์
โดยทั่วไปแล้ว อาการข้างเคียงหลังทำ Picoplus เลเซอร์ปาก ไม่รุนแรง และจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลริมฝีปากหลังทำเลเซอร์ เช่น การประคบเย็น ทายาฆ่าเชื้อ และทายาบำรุงริมฝีปาก เพื่อลดอาการบวมแดงและป้องกันการติดเชื้อ
หากคุณมีอาการข้างเคียงใด ๆ ที่ผิดปกติ เช่น ปวดรุนแรง ริมฝีปากบวมมาก เป็นหนอง มีไข้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ความอมชมพูที่ปากจะอยู่นานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้
- สีปากเดิม หากสีปากเดิมมีสีชมพูอยู่แล้ว การทำเลเซอร์หรือสักปากชมพูจะทำให้สีปากดูสดใสขึ้น แต่หากสีปากเดิมคล้ำมาก การทำเลเซอร์หรือสักปากชมพูอาจทำให้สีปากดูอมชมพูขึ้นได้ แต่อาจจางลงได้ในระยะยาว
- ความรุนแรงของความคล้ำ หากความคล้ำของริมฝีปากรุนแรงมาก การทำเลเซอร์หรือสักปากชมพูอาจต้องใช้หลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และผลลัพธ์อาจไม่คงอยู่ถาวร
- สาเหตุของความคล้ำ หากความคล้ำของริมฝีปากเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น การได้รับแสงแดดเป็นประจำ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การทำเลเซอร์หรือสักปากชมพูอาจช่วยทำให้สีปากดูอมชมพูขึ้นได้ในระยะสั้น แต่หากไม่หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสีปากคล้ำ ผลลัพธ์อาจไม่คงอยู่ถาวร
- การดูแลริมฝีปาก หากดูแลริมฝีปากอย่างเหมาะสม เช่น ทาลิปบาล์มที่มีสารกันแดด หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปากกับสิ่งสกปรก ผลลัพธ์ของความอมชมพูที่ปากอาจคงอยู่ได้นานขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว ความอมชมพูที่ปากจากการเลเซอร์หรือสักปากชมพูอาจคงอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี หากดูแลริมฝีปากอย่างเหมาะสม อาจยืดอายุผลลัพธ์ให้นานขึ้นได้