
การฉีดโบท็อกซ์: ความงามและความปลอดภัย
การฉีดโบท็อกซ์เป็นกระบวนการที่ใช้สารโบทูลินั่ม (Botulinum) ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการหดตัวของกล้ามเนื้อเมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์โดยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว เริ่มคลายออก การฉีดโบท็อกซ์ยังสามารถลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดเหงือกและปรับรูปหน้าได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการลดเหงือกใต้วงแขนและฝ่ามือได้
สิ่งที่ควรจำ:
- การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า
- โบท็อกซ์เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
- กระบวนการฉีดโบท็อกซ์เริ่มแสดงผลภายใน 3 วัน และมีผลประสิทธิภาพได้ครับ 4-6 เดือน
- การฉีดโบท็อกซ์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
- หลังการฉีดโบท็อกซ์ควรบำรุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
การฉีดโบท็อกคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ?
โบท็อกซ์เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม (Botulinum Toxin Type A) ที่ใช้ในการฉีดเพื่อลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ โดยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว จากนั้นกล้ามเนื้อจะกลับมาหดตัวใหม่ โบท็อกซ์มีความเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว หางตา โบท็อกซ์ยังสามารถลดกรามบริเวณกรอบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น อย่างไรก็ตาม โบท็อกซ์ไม่เหมาะสมสำหรับริ้วรอยที่บริเวณร่องแก้มและจมูก
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว หางตา
- ผู้ที่ต้องการลดกรามบริเวณกรอบหน้า เพื่อให้หน้าดูเรียวขึ้น
โบท็อกซ์ไม่เหมาะสมสำหรับริ้วรอยที่บริเวณร่องแก้มและจมูก
วิธีการฉีดโบท็อกซ์
ในกระบวนการฉีดโบท็อกซ์ เราจะเริ่มต้นด้วยการผสมโบท็อกซ์กับน้ำเกลือ การผสมน้ำเกลือเข้ากับโบท็อกซ์เป็นขั้นตอนแรก เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นรูปแบบของเกล็ดแห้ง
วิธีนี้ช่วยให้โบท็อกซ์เริ่มปฏิกิริยา เมื่อน้ำเกลือผสมกับโบท็อกซ์ โบท็อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์และทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว
หลังจากนั้นเมื่อเราฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่กล้ามเนื้อ โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์และทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
- ประสิทธิภาพของการฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มแสดงผลภายในระยะเวลาประมาณ 3 วัน
- และสามารถมีผลประสิทธิภาพได้ในระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน
การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า อย่างไรก็ตาม ควรระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การบวม แดง หรือปวดในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์
วิธีการฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่นิยมและมีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนรูปหน้า ผลลัพธ์ที่ได้เป็นผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ที่ต้องการฉีดโบท็อกซ์ และสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี การฉีดโบท็อกซ์ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินการ
ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์เป็นกระบวนการที่ได้รับความนิยมมากในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สูง
โบท็อกซ์ทำงานได้แบบชั่วคราวเท่านั้น โดยการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราวและกลับมาหดตัวใหม่ ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ชัดเจนและเวลาในการฟื้นตัวหลังฉีดไม่นาน เนื่องจากโบท็อกซ์มีผลลัพธ์แบบชั่วคราวเท่านั้น โบท็อกซ์ถูกใช้งานมาอย่างปลอดภัยในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย
ประสิทธิภาพของการฉีดโบท็อกซ์ | ความปลอดภัยของการฉีดโบท็อกซ์ | ผลข้างเคียง | อันตราย |
---|---|---|---|
มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ | มีความปลอดภัยเพรียงพอใจสำหรับการใช้งานกับการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย | ผลข้างเคียงมีน้อยและชั่วคราว เช่น บวมบริเวณที่ฉีด ช้ำง่าย | ไม่เกิดอันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ |
โบท็อกซ์จึงเป็นวิธีที่ของง่ายและปลอดภัยในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
โบท็อกซ์ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง เมื่อการฉีดโบท็อกซ์ถูกดำเนินการโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ถูกต้อง
ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ในผลกระทบต่อริ้วรอย
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน โดยส่วนมากจะเน้นใช้ในการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยที่ผาก คิ้ว หางตา โบท็อกซ์สามารถลดการทำงานของกล้ามเนื้อให้เล็กลง จึงทำให้หน้าเรียวขึ้น อย่างไรก็ตาม โบท็อกซ์ไม่มีผลกับริ้วรอยที่เกิดจากฝ่ามือ แร้วแต่ละพคนสามารถตอบสนองต่อโบท็อกซ์อย่างเป็นเอกเทศน์ นอกจากนั้น โบท็อกซ์ยังสามารถลดเหงื่อและปรับรักษาระดับคอลลาเจนของผิวหนังได้
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน
การลดริ้วรอยบนใบหน้า
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยที่ผาก คิ้ว หางตา โบท็อกซ์สามารถลดการทำงานของกล้ามเนื้อให้เล็กลง จึงทำให้หน้าเรียวขึ้น
การตอบสนองต่อโบท็อกซ์
ไม่ใช่ทุกคนที่ตอบสนองต่อโบท็อกซ์เท่ากัน บางคนอาจมีผลตอบสนองที่เป็นเอกเทศน์ เนื่องจากตัวโบท็อกซ์แต่ละชนิดอาจมีผลแตกต่างกันไป นับครั้งแรกที่รับการฉีดโบท็อกซ์อาจใช้เวลาในการออกฤทธิ์ และควรติดตามความผิดปกติหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นหลังการรับการฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์สามารถลดเหงื่อและปรับรักษาระดับคอลลาเจนของผิวหนังได้
การใช้โบท็อกซ์ในการปรับฟื้นผิวหน้า
- ลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ผาก คิ้ว หางตา
- ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- ลดเหงือกและปรับรักษาระดับคอลลาเจนของผิวหนัง
การใช้โบท็อกซ์สำหรับบำรุงผิวหลังการฉีด
หลังการฉีดโบท็อกซ์ ควรให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้าเพื่อให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นและปกป้องผิวหน้าให้อยู่ในสภาวะที่ดี นอกจากนี้ยังแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในการบำรุงผิวหลังการฉีดโบท็อกซ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารออกซิเจน วิตามินซี หรือสารสกัดจากพืช เพื่อให้ผิวหน้าสมบูรณ์และไม่มีรอยแดง
คำแนะนำเพิ่มเติม
ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ ควรรับคำแนะนำจากแพทย์และปฏิบัติตัวตามขั้นตอนที่เกี่ยวกับการดูแลตัวก่อนและหลังการฉีด ภายในบทความนี้ ข้อแนะนำจะถูกอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของโบท็อกและเรื่องความปลอดภัย ในการฉีดโบท็อกซ์ คุณควรปฏิบัติตัวด้วยวิธีนี้ในการดูแลตัวก่อนและหลังทำการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้โบท็อกซ์ส่วนที่ 2 ปลิวไปน้อยที่สุด
ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ | ผลกระทบต่อริ้วรอย |
---|---|
ลดริ้วรอยบนใบหน้า | ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น |
ลดการทำงานของกล้ามเนื้อในใบหน้า | ไม่มีผลกับริ้วรอยที่เกิดจากฝ่ามือ |
ลดเหงื่อและปรับรักษาระดับคอลลาเจนของผิวหนัง |
การฉีดโบท็อกซ์สำหรับปรับรูปหน้า
โบท็อกซ์สามารถนำมาปรับรูปหน้าได้โดยเฉพาะการลดกราม โดยให้กล้ามเนื้อเจ็บกระชับกระชั้นมีขนาดเล็กลง เป็นการช่วยให้หน้าดูเรียวเฉียบขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำโบท็อกมาฉีดเพื่อลดเหงื่อใต้วงแขนและฝ่ามือได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับรูปหน้า | ประโยชน์ของโบท็อกซ์ |
---|---|
ลดกราม | ช่วยกระชับกล้ามเนื้อและลดความโปร่งใสในบริเวณที่ฉีด |
หน้าเรียว | ช่วยทำให้หน้าดูเรียวเฉียบและสมสวยขึ้น |
ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ในการรักษารอยแดง
โบท็อกซ์แสดงความสามารถในการรักษารอยแดงบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับรอยแดงจากสิวอักเสบในกรณีที่เกิดจากการตกค้างของเลือดหรือการหลุดของหลอดเลือดผิวหนัง การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดการหลุดหรือตกค้างของเลือดและส่งเสริมกระบวนการสร้างผิวหนังใหม่ที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกซ์ยังเหมาะสมสำหรับรักษารอยแดงในบริเวณอื่น ๆ ของใบหน้าที่มีรอยแดงเป็นเรื่องรำคาญ
โบท็อกซ์ในการรักษารอยแดงจากสิวอักเสบ
สิวอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเกิดการติดเชื้อในต่อมน้ำมันของผิวหนัง ซึ่งสามารถแสดงผลเป็นรอยแดงบนใบหน้า การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยลดการตกค้างของเลือดและการอักเสบ ทำให้รอยแดงจากสิวอักเสบดูเบาลง นอกจากนี้ โบท็อกซ์ยังช่วยลดความอักเสบรอบติดของสิวอักเสบ เพื่อให้ผิวหนังดูสมบูรณ์และไม่มีรอยแดงที่น่ารำคาญ
โบท็อกซ์ในการรักษารอยแดงที่เกิดจากการหลุดหลอดเลือด
รอยแดงบนใบหน้าที่เกิดจากการหลุดหลอดเลือดส่วนมากเกิดจากการตีกลางหรือการเจ็บกระทำ การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยลดการหลุดของเลือดที่รอยแดงและส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิวหนังให้เร็วขึ้น ทำให้รอยแดงลดลงและผิวหนังดูเนียนขึ้น
ประโยชน์ของโบท็อกซ์ในการรักษารอยแดง | วิธีการใช้ |
---|---|
ลดการหลุดหลอดเลือด | การฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่ผิวหนังตามรอยแดง |
ลดการอักเสบรอบติดของสิวอักเสบ | การฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่ผิวหนังที่มีรอยแดงจากสิวอักเสบ |
โบท็อกซ์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษารอยแดงบนใบหน้า การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดการหลุดหรือตกค้างของเลือดและการอักเสบ ทำให้รอยแดงดูบางลงและผิวหนังดูเรียบเนียนขึ้น
ลดรอยตีนกาด้วยโบท็อกซ์
โบท็อกซ์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการลดรอยตีนกา เนื่องจากโบท็อกซ์มีความสามารถในการกระชับกล้ามเนื้อและลดริ้วรอยหย่อนแห้งในบริเวณรอยตีนกา เป็นการช่วยให้ผิวหนังดูมีความกระชับและเรียวขึ้น นอกจากนี้โบท็อกซ์ยังช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อใต้ตาที่เสื่อมสภาพ ทำให้รอยแทบลึกเกิดได้น้อยลง
ประเภทรอยตีนกา | ผลการใช้โบท็อกซ์ |
---|---|
รอยหย่อนแห้ง | ช่วยลดการเกิดริ้วรอยและกระชับผิวหนัง |
รอยแทบลึก | ช่วยบำรุงและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง |
การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยลดรอยตีนกาให้เกิดผลที่น่าพอใจ แต่ควรทราบว่าผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์อาจแตกต่างกันไปโดยบุคคล และอาจคงความยุ่งเหยิงเป็นเวลาสั้น จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีดโบท็อกซ์ ในการดูแลหลังการฉีดโบท็อกซ์ ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม เพื่อทำความสะอาดและบำรุงผิวหลังฉีดโบท็อกซ์อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผิวหนังดูมีความประณีตและสุขภาพดี
บำรุงผิวหน้าหลังจากการฉีดโบท็อกซ์
หลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้ผลที่ดีและรักษาผิวหน้าให้ยาวนานขึ้น ควรให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหลังการรักษาด้วย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมจะช่วยในการเติมความชุ่มชื่นและบำรุงสภาพผิวหน้าอย่างเหมาะสม นอกจากนี้หากต้องการผลที่ดียิ่งขึ้น สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารออกซิเจน วิตามินซี หรือสารสกัดจากพืชในการบำรุงผิวหลังการฉีดโบท็อกซ์ได้ ที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดี
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า | ส่วนประกอบ | ประโยชน์ |
---|---|---|
ครีมบำรุงผิว | สารออกซิเจน, วิตามินซี, สารสกัดจากพืช | บำรุงและช่วยซ่อมแซมผิวหลังการฉีดโบท็อกซ์ |
เซรั่มบำรุงผิว | สารออกซิเจน, วิตามินซี, สารสกัดจากพืช | เติมความชุ่มชื่นและบำรุงผิวหน้าอย่างเหมาะสม |
มาสก์บำรุงผิว | สารออกซิเจน, วิตามินซี, สารสกัดจากพืช | บำรุงผิวและช่วยให้ผิวหน้าสดชื่นและกระจ่างใส |
การบำรุงผิวหลังการฉีดโบท็อกซ์ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรคำนึงถึงเพื่อสุขภาพผิวหน้าที่ดีระยะยาว โดยควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและตรงตามความต้องการของผิวหน้า เพื่อความชุ่มชื้นและสภาพผิวที่ดีมากยิ่งขึ้น
คำแนะนำตั้งแต่ก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์
ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ ควรเรียนรู้ขั้นตอนการดูแลตัวเรื่องก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้การฉีดโบท็อกซ์เป็นไปได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย ขั้นแรกคือการพบประชุมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำการฉีดโบท็อกซ์ แพทย์จะแสดงคำแนะนำและอธิบายถึงขั้นตอนการทำการฉีดโบท็อกซ์ รวมถึงข้อควรระวัง อาจจะมีการตรวจสอบปริมาณของโบท็อกซ์และประเมินผลซึ่งหลังจากฉีดเสร็จ สำหรับการดูแลตัวหลังการฉีดโบท็อกซ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่รุนแรง เพื่อให้โบท็อกซ์ส่วนที่ฉีดไปปลิวไปน้อยที่สุด ไม่ควรออกแดดนานเกินไป และควรมีการดูแลผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้ผิวหน้าดูสมบูรณ์และรักษาผลลัพธ์ได้นานขึ้น
FAQ
การฉีดโบท็อกซ์เป็นกระบวนการอย่างไร?
การฉีดโบท็อกซ์เริ่มต้นด้วยการผสมโบท็อกซ์กับน้ำเกลือ แล้วฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ โบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว และเมื่อกล้ามเนื้อกลับมาหดตัวใหม่ ผลกระทบของการฉีดโบท็อกซ์จะเริ่มแสดงผลภายใน 3 วัน และมีผลประสิทธิภาพได้ประมาณ 4-6 เดือน
โบท็อกซ์เหมาะกับใคร?
โบท็อกซ์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว หางตา และกรอบหน้า โบท็อกซ์ยังสามารถลดเหงือกและปรับรูปหน้าได้
โบท็อกซ์มีผลข้างเคียงหรืออันตรายไหม?
การฉีดโบท็อกซ์มีผลข้างเคียงที่น้อยและไม่มีอันตรายต่อร่างกาย เช่น รอยบวม แดง หรือคล้ำ เมื่อฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำและคำสั่งของแพทย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เป็นไปได้
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยอย่างไร?
การฉีดโบท็อกซ์มีประสิทธิภาพสูงในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ และโบท็อกซ์มีความปลอดภัยเพรียงพอดีสำหรับการใช้งานกับการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพที่ใดในการลดริ้วรอย?
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยที่ผาก คิ้ว หางตา โบท็อกซ์ยังสามารถลดกรามบริเวณกรอบหน้า ทำให้หน้าเรียวขึ้น โบท็อกซ์ไม่มีผลกับริ้วรอยที่เกิดจากฝ่ามือ
โบท็อกซ์สามารถรักษารอยแดงบนใบหน้าได้หรือไม่?
โบท็อกซ์สามารถใช้ในการรักษารอยแดงบนใบหน้าได้ เช่น รอยแดงจากสิวอักเสบ โบท็อกซ์ช่วยลดการหลุดหรือตกค้างของเลือด และช่วยสร้างผิวหนังใหม่ให้สมบูรณ์และไม่มีรอยแดง
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการลดรอยตีนกาเหมาะกับใคร?
โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการลดรอยตีนกา เช่น รอยหย่อนแห้งในบริเวณรอยตีนกา โบท็อกซ์ยังช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อใต้ตาที่เสื่อมสภาพ ทำให้รอยแทบลึกเกิดได้น้อยลง
ควรทำอย่างไรหลังจากฉีดโบท็อกซ์?
หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบประจำวันในการดูแลผิวหน้า คือ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น และบำรุงหลังการฉีดโบท็อกซ์อาจรวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารออกซิเจน วิตามินซี หรือสารสกัดจากพืช ซึ่งสามารถช่วยบำรุงผิวหน้าและช่วยซ่อมแซมผิวหลังการฉีดโบท็อกซ์ได้
ควรปฏิบัติตัวอย่างไรก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์?
ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ ควรเรียนรู้ขั้นตอนการดูแลตัวและหลังฉีดโบท็อกซ์ และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำเพื่อให้การฉีดโบท็อกซ์ส่วนที่ 2 ปลิวไปน้อยที่สุด