เทคนิคการยกกระชับด้วยUltherapyที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ 

เทคนิคการยกกระชับด้วยอัลเทอร่า ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ มีดังนี้:

1. การยิงแบบ DeepSEE: เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่ชั้นผิว SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน
2. การยิงแบบ Micro-Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V): เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่ชั้นผิวหนังหลายระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
3. การยิงแบบ Dual Mode: เทคนิคนี้ผสมผสานการยิงแบบ DeepSEE และ MFU-V เข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั้งระดับลึกและระดับตื้น ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว
4. การยิงแบบ Submental: เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่บริเวณใต้คาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียง ไขมันสะสมใต้คาง ต้องการใบหน้าเรียว V-Shape
5. การยิงแบบ Upper Face: เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่บริเวณใบหน้าส่วนบน เช่น หน้าผาก หางตา คิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยตีนกา หนังตาตก ต้องการยกกระชับใบหน้าส่วนบน
6. การยิงแบบ Lower Face: เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่บริเวณใบหน้าส่วนล่าง เช่น แก้ม ร่องแก้ม มุมปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องแก้มลึก ต้องการยกกระชับใบหน้าส่วนล่าง
7. การยิงแบบ Total Face: เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่บริเวณใบหน้าทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ทั้งใบหน้า ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและครอบคลุม
8. การยิงแบบเฉพาะจุด: เทคนิคนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านหัวUltherapyลงสู่บริเวณเฉพาะจุดบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม มุมปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเฉพาะจุด ต้องการผลลัพธ์ที่ตรงจุดและรวดเร็ว

เทคนิคการยิงUltherapyที่แพทย์นิยมใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล แพทย์จะประเมินสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ก่อนเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุด

นอกจากเทคนิคการยิงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการยกกระชับด้วยUltherapy เช่น:

• ประเภทของหัวอัลเทอร่า 
• จำนวนไลน์ที่ยิง
• พลังงานที่ใช้
• ประสบการณ์ของแพทย์

ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำUltherapy

ข้อควรระวัง:

• การยิงUltherapyอาจทำให้รู้สึกเจ็บระคายเคืองได้ แพทย์จะทายาชาเพื่อบรรเทาอาการ
• ผลลัพธ์ของการยิงUltherapyจะปรากฏหลังจากทำ 1-3 เดือน และสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี
• ผลลัพธ์ของการยิงUltherapyอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

แพทย์แต่ละที่เลือกวิธีการยิงUltherapyโดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้:

1. ปัญหาผิวของคนไข้: แพทย์จะประเมินสภาพผิวของคนไข้ ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เช่น ผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย รอยตีนกา หนังตาตก เหนียง ไขมันสะสมใต้คาง ฯลฯ จากนั้นจะเลือกเทคนิคการยิงUltherapyที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคนไข้
2. ประเภทของหัวอัลเทอร่า : หัวUltherapyมีหลายประเภท แต่ละประเภทเหมาะสำหรับการยิงลงสู่ชั้นผิวที่แตกต่างกัน แพทย์จะเลือกหัวUltherapyให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและชั้นผิวของคนไข้
3. ประสบการณ์ของแพทย์: แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำUltherapyจะสามารถเลือกเทคนิคการยิงและปรับพลังงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจคนไข้
4. นโยบายของคลินิก: คลินิกบางแห่งมีนโยบายในการยิงUltherapyที่แตกต่างกัน แพทย์จะต้องปฏิบัติตามนโยบายของคลินิก

ตัวอย่างวิธีการยิงUltherapyที่แพทย์นิยมใช้:

• การยิงแบบ DeepSEE: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน
• การยิงแบบ Micro-Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
• การยิงแบบ Dual Mode: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั้งระดับลึกและระดับตื้น ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว
• การยิงแบบ Submental: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหนียง ไขมันสะสมใต้คาง ต้องการใบหน้าเรียว V-Shape
• การยิงแบบ Upper Face: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยตีนกา หนังตาตก ต้องการยกกระชับใบหน้าส่วนบน
• การยิงแบบ Lower Face: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องแก้มลึก ต้องการยกกระชับใบหน้าส่วนล่าง
• การยิงแบบ Total Face: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ทั้งใบหน้า ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและครอบคลุม
• การยิงแบบเฉพาะจุด: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเฉพาะจุดบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม มุมปาก ต้องการผลลัพธ์ที่ตรงจุดและรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อวิธีการยิงอัลเทอร่า เช่น:

• อายุของคนไข้
• สุขภาพของคนไข้
• ยาที่คนไข้ทานอยู่

ดังนั้น ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำUltherapy

ข้อควรระวัง:

• การยิงอัลเทอร่าอาจทำให้รู้สึกเจ็บระคายเคืองได้ แพทย์จะทายาชาเพื่อบรรเทาอาการ
• ผลลัพธ์ของการยิงUltherapyจะปรากฏหลังจากทำ 1-3 เดือน และสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี
• ผลลัพธ์ของการยิงUltherapyอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล