หลุมสิวหน้าเป็นแล้วไม่รักษา มีโอกาสขยายใหญ่ และลึกขึ้นหรือไม่ ?
หลุมสิวหน้าเป็นแล้วไม่รักษา มีโอกาสขยายใหญ่ และลึกขึ้นหรือไม่ ?
หลุมสิว (Atrophic acne scars) เกิดจากกระบวนการอักเสบของสิวที่ทำลายเนื้อเยื่อในชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวเรียบเนียน เมื่อผิวถูกทำลายจึงเกิดเป็นหลุมลึกลงไป
หลุมสิวที่ไม่ได้รับการรักษา มีโอกาสขยายใหญ่และลึกขึ้นได้ เนื่องจากกระบวนการอักเสบของสิวยังคงดำเนินต่อไป ส่งผลให้เนื้อเยื่อในชั้นหนังแท้ถูกทำลายมากขึ้น นอกจากนี้ แรงกดทับจากผิวบริเวณรอบๆ หลุมสิวก็อาจทำให้หลุมสิวลึกขึ้นได้เช่นกัน
โอกาสที่หลุมสิวจะขยายใหญ่และลึกขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่
- ประเภทของหลุมสิว: หลุมสิวบางประเภท เช่น หลุมสิวแบบ Ice Pick scar และ Boxcar scar มีแนวโน้มที่จะขยายใหญ่และลึกขึ้นมากกว่าหลุมสิวแบบ Rolling scar
- ความรุนแรงของสิว: สิวอักเสบชนิดรุนแรงที่ลุกลามลึกถึงชั้นหนังแท้ มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดหลุมสิวที่ขยายใหญ่และลึกขึ้นมากกว่าสิวอักเสบชนิดไม่รุนแรง
- อายุ: หลุมสิวมักจะขยายใหญ่และลึกขึ้นในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น เนื่องจากร่างกายยังคงเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อใหม่
- พันธุกรรม: บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดหลุมสิวมากกว่าคนอื่น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยทางพันธุกรรม
หากมีหลุมสิว ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม การรักษาหลุมสิวมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของหลุมสิว การรักษาอาจใช้เวลานานและต้องใช้ความอดทน แต่หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม หลุมสิวก็สามารถดีขึ้นได้
วิธีป้องกันไม่ให้หลุมสิวขยายใหญ่และลึกขึ้น ได้แก่
- การรักษาสิวให้หายเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้สิวลุกลามจนกลายเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง
- หลีกเลี่ยงการบีบเค้นหรือแกะสิว เพราะอาจทำให้สิวอักเสบลุกลามจนกลายเป็นหลุมสิว
- ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง
เลเซอร์หลุมสิว ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน โดยส่วนมากต้องรับบริการอย่างต่ำ 3-5 ครั้งจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวต่อพลังงานเลเซอร์ ร่วมกับระดับปัญหาหลุมสิวที่แพทย์ประเมิน
การทำเลเซอร์หลุมสิวครั้งแรกจะเห็นผลประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้ โดยจะเห็นได้ว่าหลุมสิวดูตื้นลงเล็กน้อย ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น รอยแดงหรือรอยบวมช้ำหลังทำอาจหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
สำหรับคนไข้ที่มีหลุมสิวลึกมาก การทำเลเซอร์อาจต้องทำมากกว่า 5 ครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาทำการรักษาร่วมกับวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การกรอผิว การใช้เข็มเลาะพังผืดใต้หลุมสิว เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว การทำเลเซอร์หลุมสิว ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน แพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนครั้งที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน โดยพิจารณาจากสภาพผิวและระดับปัญหาหลุมสิว
ข้อแนะนำหลังทำ
หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
- ทายาหรือครีมบำรุงผิวตามคำแนะนำของแพทย์
- หลีกเลี่ยงการขัดถูผิวหน้า
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ผลข้างเคียงของการทำเลเซอร์หลุมสิว
- รอยแดงหรือรอยบวมช้ำหลังทำอาจหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
- ผิวแห้งลอก อาจใช้ครีมบำรุงผิวหรือยาทาแผลสดช่วยบรรเทาอาการ
- เกิดแผลไหม้หรือรอยแผลเป็นถาวรได้ แต่พบได้น้อยมาก