ศัลยกรรมและการตกแต่ง กับวงการศัลยกรรมไทย

ศัลยกรรมและการตกแต่งเป็นสาขาวิชาหนึ่งของศัลยศาสตร์ที่มุ่งเน้นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขหรือปรับปรุงรูปร่างของร่างกายทั้งด้านความสวยงามและด้านหน้าที่ ศัลยกรรมและการตกแต่งในประเทศไทยมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี โดยเริ่มจากการเย็บปากแหว่ง ปลูกผิวหนัง และเย็บเพดานโหว่ ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดและเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ศัลยกรรมและการตกแต่งมีบทบาทมากขึ้นในการรักษาความงามและฟื้นฟูร่างกาย

ปัจจุบัน ศัลยกรรมตกแต่ง ในประเทศไทยได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดศัลยกรรมและการตกแต่งที่ต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทางการแพทย์จากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก

จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) ในปี 2564 ประเทศไทยมีจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัด ศัลยกรรมตกแต่ง เป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมัน ศัลยกรรมตาสองชั้น และศัลยกรรมเสริมจมูก

ปัจจัยที่ส่งผลให้วงการศัลยกรรมไทยเติบโตขึ้น ได้แก่

• กระแสความนิยมความงามในสังคมไทยที่เพิ่มขึ้น
• การพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย
• ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ศัลยกรรมตกแต่ง ที่ต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้ว

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของวงการศัลยกรรมไทยก็มาพร้อมกับความท้าทายบางประการ เช่น

• ปัญหาการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้บางสถานพยาบาลลดมาตรฐานการให้บริการเพื่อดึงดูดลูกค้า
• ปัญหาการลักลอบเปิดคลินิกศัลยกรรมโดยแพทย์ที่ไม่มีคุณสมบัติ
• ปัญหาการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริง

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ภาครัฐและสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการควบคุมมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัยในการผ่าตัดศัลยกรรม เช่น การกำหนดคุณสมบัติของสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ การกำหนดมาตรฐานการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นต้น

โดยรวมแล้ว ศัลยกรรมและการตกแต่งเป็นสาขาวิชาที่มีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ไทย ทั้งในด้านการรักษาความงามและฟื้นฟูร่างกาย คาดว่าในอนาคต ศัลยกรรมและการตกแต่งจะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และวงการศัลยกรรมไทยจะพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน

จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ในปี 2564 ศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมัน ศัลยกรรมตาสองชั้น และศัลยกรรมเสริมจมูก ซึ่งทั้ง 4 ตำแหน่งนี้ล้วนเป็นตำแหน่งที่ผู้คนกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สาเหตุที่คนนิยมทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกนั้น เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับขนาดและรูปร่างของหน้าอก ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุกรรม น้ำหนักตัว การตั้งครรภ์ และการให้นมบุตร

ศัลยกรรมดูดไขมัน เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมรองลงมา โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขึ้นเช่นกัน สาเหตุที่คนนิยมทำศัลยกรรมดูดไขมันนั้น เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับไขมันส่วนเกินในร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุกรรม ไลฟ์สไตล์ และอาหารการกิน

ศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สาเหตุที่คนนิยมทำศัลยกรรมตาสองชั้นนั้น เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับรูปทรงของดวงตา ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุกรรม อุบัติเหตุ และการใช้เครื่องสำอางบางชนิด

ศัลยกรรมเสริมจมูก เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเช่นกัน โดยมีจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สาเหตุที่คนนิยมทำศัลยกรรมเสริมจมูกนั้น เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับรูปทรงของจมูก ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุกรรม อุบัติเหตุ และการใช้เครื่องสำอางบางชนิด

นอกจากตำแหน่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่ผู้คนกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก เช่น ศัลยกรรมตัดกราม ศัลยกรรมวีไลน์ ศัลยกรรมทำปากกระจับ ศัลยกรรมตัดหนังตา ศัลยกรรมทำคาง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงก่อนตัดสินใจทำ ศัลยกรรมตกแต่ง  คือ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับศัลยกรรมอย่างละเอียด เลือกสถานพยาบาลและศัลยแพทย์ที่มีคุณภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดออกมาดีที่สุดและปลอดภัยมากที่สุด

ปัจจุบัน การทำศัลยกรรมความงามได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทำศัลยกรรมความงามมากที่สุด สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้การทำศัลยกรรมความงามได้รับความนิยม ได้แก่

• กระแสความนิยมความงามในสังคมที่เพิ่มขึ้น ผู้คนมีความคาดหวังที่สูงขึ้นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกของตนเอง
• การพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ทำให้การทำศัลยกรรมความงามมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดศัลยกรรมความงามที่ลดลง ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงการทำศัลยกรรมความงามได้ง่ายขึ้น

จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) ในปี 2564 ประเทศไทยมีจำนวนผู้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมความงามเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมัน ศัลยกรรมตาสองชั้น และศัลยกรรมเสริมจมูก

แนวโน้มของการทำศัลยกรรมความงามในอนาคตคาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะยังคงได้รับความนิยมต่อไป เช่น ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมัน ศัลยกรรมตาสองชั้น และศัลยกรรมเสริมจมูก นอกจากนี้ ยังมีศัลยกรรมความงามใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม เช่น ศัลยกรรมปากกระจับ ศัลยกรรมตัดกราม ศัลยกรรมวีไลน์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมความงาม คือ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับศัลยกรรมอย่างละเอียด เลือกสถานพยาบาลและศัลยแพทย์ที่มีคุณภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดออกมาดีที่สุดและปลอดภัยมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้การทำศัลยกรรมความงามได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่

• การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารที่ง่ายขึ้น ทำให้ผู้คนสามารถรับชมภาพลักษณ์ของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในสังคม ซึ่งมักมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม จึงทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตนเองให้ดูดีขึ้น
• สื่อสังคมออนไลน์ที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของตนเองมากขึ้น
• เทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้คนต้องปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเองให้เข้ากับเทรนด์ความงามในปัจจุบัน

การทำศัลยกรรมความงามเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การทำศัลยกรรมความงามควรทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัย