รูปหน้าแบบไหนที่เรียกว่าสวย ปรับรูปหน้าแบบไหนให้สวย
ตามหลักวิทยาศาสตร์ความงาม รูปหน้าที่สวยควรมีความสมดุลทั้ง 3 ส่วน คือ ส่วนบน กลาง ล่าง ด้วยอัตรา 1 : 1 : 1 โดยวัดระยะตั้งแต่หน้าผากถึงระหว่างคิ้ว ระยะดวงตาถึงปลายจมูก และระยะปลายจมูกถึงคาง ตามสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio)
รูปหน้าที่มีสัดส่วนทองคำตามหลักวิทยาศาสตร์ความงาม ได้แก่ รูปหน้ารูปไข่ (Oval Face) ซึ่งเป็นรูปหน้าที่สวยที่สุดตามหลักสากล มีลักษณะหน้าผากกว้าง โหนกแก้มไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป และคางเรียวเล็ก
นอกจากนี้ รูปหน้าทรงอื่นๆ ก็อาจเรียกได้ว่าสวยได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล เช่น
- รูปหน้ารูปหัวใจ (Heart Shape) มีลักษณะหน้าผากกว้าง โหนกแก้มสูง และคางเรียวเล็ก
- รูปหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle Face) มีลักษณะหน้าผาก โหนกแก้ม และคางที่เท่ากัน
- รูปหน้ารูปเพชร (Diamond Face) มีลักษณะหน้าผากแคบ โหนกแก้มสูง และคางที่เรียวเล็ก
- รูปหน้ารูปทรงกลม (Circle Face) มีลักษณะหน้าผากกว้าง โหนกแก้มสูง และคางที่กลม
การปรับรูปหน้าให้สวยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- การศัลยกรรม เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด แต่อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานและอาจเกิดผลข้างเคียงได้
- การฉีดสารเติมเต็ม เป็นวิธีปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลทันที แต่อาจต้องฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน
- การใช้เครื่องมือยกกระชับ เป็นวิธีที่ช่วยยกกระชับผิวและปรับโครงหน้าให้เรียวสวยขึ้น สามารถทำได้โดยไม่เจ็บตัว แต่อาจต้องใช้เวลาหลายครั้งจึงจะเห็นผล
การเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย
สัดส่วนใบหน้าแบบ Golden Ratio นั้น ใช้อัตราส่วน 1:1.618 ในการวัดความงามของใบหน้า ซึ่งสัดส่วนนี้สามารถพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ สัตว์ สถาปัตยกรรม และงานศิลปะ
ตามหลักวิทยาศาสตร์ความงาม รูปหน้าที่สวยควรมีความสมดุลทั้ง 3 ส่วน คือ ส่วนบน กลาง ล่าง ด้วยอัตรา 1 : 1 : 1 โดยวัดระยะตั้งแต่หน้าผากถึงระหว่างคิ้ว ระยะดวงตาถึงปลายจมูก และระยะปลายจมูกถึงคาง
- ส่วนบนของใบหน้า หมายถึง พื้นที่ตั้งแต่ไรผมถึงคิ้ว โดยควรมีความกว้างประมาณ 1 ใน 3 ของใบหน้าทั้งหมด
- ส่วนกลางของใบหน้า หมายถึง พื้นที่ตั้งแต่คิ้วถึงปลายจมูก โดยควรมีความกว้างประมาณ 1 ใน 3 ของใบหน้าทั้งหมด
- ส่วนล่างของใบหน้า หมายถึง พื้นที่ตั้งแต่ปลายจมูกถึงปลายคาง โดยควรมีความกว้างประมาณ 1 ใน 3 ของใบหน้าทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีสัดส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความงามของใบหน้า เช่น
- ระยะความกว้างระหว่างตาทั้งสองข้าง ควรมีความกว้างประมาณ 1 ใน 5 ของใบหน้าทั้งหมด
- ระยะความกว้างของจมูก ควรมีความกว้างประมาณ 1 ใน 5 ของใบหน้าทั้งหมด
- ระยะความกว้างของปาก ควรมีความกว้างประมาณ 1 ใน 5 ของใบหน้าทั้งหมด
หากใบหน้าของเรามีสัดส่วนตามหลัก Golden Ratio ถือว่าใบหน้าของเรามีความสวยงามตามหลักสากล อย่างไรก็ตาม รูปหน้าทรงอื่นๆ ก็อาจเรียกได้ว่าสวยได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล
เราสามารถมีรูปหน้าแบบ Golden Ratio ได้ด้วยการทำศัลยกรรมหรือพัตการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละบุคคล
การทำศัลยกรรม เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด แต่อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานและอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ศัลยแพทย์จะประเมินใบหน้าของแต่ละบุคคลและเลือกวิธีการศัลยกรรมที่เหมาะสม เช่น
- การเสริมคาง ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
- การเสริมจมูก ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและสวยงามขึ้น
- การลดโหนกแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- การยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น
พัตการ เป็นวิธีปรับรูปหน้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลทันที แต่อาจต้องฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน พัตจะใช้สารเติมเต็ม เช่น ฟิลเลอร์หรือไขมันตัวเอง ฉีดเข้าไปบริเวณที่ต้องการปรับ เช่น
- การฉีดฟิลเลอร์แก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและอวบอิ่มขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์จมูก ช่วยให้จมูกดูโด่งขึ้นและปลายจมูกเรียวขึ้น
การเลือกวิธีปรับรูปหน้าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย